วัน เสาร์ ที่ 2 มีนาคม พ.ศ.2556
แฟ้มสะสมงานวิชาการจัดประสบการณ์ทางคณิตศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย
วันอาทิตย์ที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2556
วันพุธที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556
แนะนำงานวิจัย : เตรียมความพร้อมทางคณิตศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย
กัญญนันทน์ กิตติ์ชนะภิรมน์. (2554). การสร้างหนังสือภาพเพื่อเตรียมความพร้อมทางคณิตศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย (Construction
of Picture Books for Preparing Mathematics Readiness of Preschoolers). การค้นคว้าแบบอิสระ (ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต (สาขาวิชาประถมศึกษา)) บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่. 95 หน้า. ภาพประกอบ, ตาราง. (ว 372.7 ก113ก) 09/2555/139
of Picture Books for Preparing Mathematics Readiness of Preschoolers). การค้นคว้าแบบอิสระ (ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต (สาขาวิชาประถมศึกษา)) บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่. 95 หน้า. ภาพประกอบ, ตาราง. (ว 372.7 ก113ก) 09/2555/139
สร้างหนังสือภาพเพื่อเตรียมความพร้อมทางคณิตศาสตร์ เรื่องการรู้ค่าของตัวเลข 0 - 9 สำหรับเด็กปฐมวัย ศึกษาผลการเตรียมความพร้อมทางคณิตศาสตร์ เรื่องการรู้ค่าของตัวเลข 0 - 9 สำหรับเด็กปฐมวัยหลังการใช้หนังสือภาพ และศึกษาความคิดเห็นของเด็กปฐมวัยที่มีต่อหนังสือภาพ กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการศึกษาได้แก่นักเรียนที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับชั้นอนุบาลปีที่
2 โรงเรียนบ้านแม่ลาน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาลำพูน เขต
2 จังหวัดลำพูน ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2553 จำนวน 18 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาประกอบด้วย หนังสือภาพเพื่อเตรียมความพร้อมทางคณิตศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย จำนวน 10 เล่ม แผนการจัดประสบการณ์เพื่อเตรียมความพร้อมทางคณิตศาสตร์ เรื่องการรู้ค่าของตัวเลข 0 - 9 จำนวน 12 แผน แบบทดสอบความพร้อมทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัยหลังใช้หนังสือภาพ จำนวน
10 ชุด และแบบสอบถามความคิดเห็นของเด็กปฐมวัยที่มีต่อหนังสือภาพ จำนวน
1 ชุด วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าเฉลี่ยร้อยละ ของคะแนนความพร้อมทางคณิตศาสตร์ แล้วเปรียบเทียบกับเกณฑ์ที่ตั้งไว้ของโรงเรียน ร้อยละ 60.00 และนำเสนอข้อมูลโดยใช้ตารางประกอบคำบรรยาย ส่วนความ คิดเห็นของเด็กปฐมวัยที่มีต่อหนังสือภาพ วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และนำเสนอข้อมูลโดยใช้ตารางประกอบคำบรรยาย
2 โรงเรียนบ้านแม่ลาน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาลำพูน เขต
2 จังหวัดลำพูน ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2553 จำนวน 18 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาประกอบด้วย หนังสือภาพเพื่อเตรียมความพร้อมทางคณิตศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย จำนวน 10 เล่ม แผนการจัดประสบการณ์เพื่อเตรียมความพร้อมทางคณิตศาสตร์ เรื่องการรู้ค่าของตัวเลข 0 - 9 จำนวน 12 แผน แบบทดสอบความพร้อมทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัยหลังใช้หนังสือภาพ จำนวน
10 ชุด และแบบสอบถามความคิดเห็นของเด็กปฐมวัยที่มีต่อหนังสือภาพ จำนวน
1 ชุด วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าเฉลี่ยร้อยละ ของคะแนนความพร้อมทางคณิตศาสตร์ แล้วเปรียบเทียบกับเกณฑ์ที่ตั้งไว้ของโรงเรียน ร้อยละ 60.00 และนำเสนอข้อมูลโดยใช้ตารางประกอบคำบรรยาย ส่วนความ คิดเห็นของเด็กปฐมวัยที่มีต่อหนังสือภาพ วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และนำเสนอข้อมูลโดยใช้ตารางประกอบคำบรรยาย
ผลการศึกษาพบว่า
1. ได้หนังสือภาพเพื่อเตรียมความพร้อมทางคณิตศาสตร์
เรื่องการรู้ค่าของตัวเลข 0 - 9 สำหรับเด็กปฐมวัย จำนวน 10 เล่ม ซึ่
งสามารถนำมาใช้ได้อย่างเหมาะสม
เรื่องการรู้ค่าของตัวเลข 0 - 9 สำหรับเด็กปฐมวัย จำนวน 10 เล่ม ซึ่
งสามารถนำมาใช้ได้อย่างเหมาะสม
2. ผลการเตรียมความพร้อมทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัยหลังการใช้หนังสือภาพ ปรากฏว่า นักเรียนทุกคนมีความพร้อมทางคณิตศาสตร์
เรื่อง การรู้ค่าของตัวเลข 0 - 9 โดยมีคะแนนเฉลี่ย ร้อยละ 93.39 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ ร้อยละ 60.00
เรื่อง การรู้ค่าของตัวเลข 0 - 9 โดยมีคะแนนเฉลี่ย ร้อยละ 93.39 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ ร้อยละ 60.00
3. ผลการสอบถามความคิดเห็นของเด็กปฐมวัยที่มีต่อหนังสือภาพ
ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 โรงเรียนบ้านแม่ลาน จำนวน
18 คน อยู่ในระดับ มาก ในทุกด้าน
ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 โรงเรียนบ้านแม่ลาน จำนวน
18 คน อยู่ในระดับ มาก ในทุกด้าน
ทักษะคณิตศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย
การส่งเสริมการเรียนรู้และการพัฒนาความคิดรวบยอดทางคณิตศาสตร์ให้แก่
เด็กปฐมวัยนั้นครูหรือผู้เกี่ยวข้องควรทราบว่ามีทักษะจำเป็นอะไรบ้างที่เด็กปฐมวัย
ควรได้รับการส่งเสริมและพัฒนาเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการเรียน
คณิตศาสตร์ของเด็กต่อไป ทักษะที่เด็กปฐมวัยควรได้รับการส่งเสริมและพัฒนานั้น
อาจแบ่งเป็น ทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ และทักษะพื้นฐานการคิดคำนวณ
ทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ ที่จำเป็นสำหรับเด็กปฐมวัยมี 7 ทักษะ ได้แก่
1. ทักษะการสังเกต(Observation)
คือการใช้ประสาทสัมผัสในการเรียนรู้ โดยเข้าไปมีปฏิสัมพันธ์โดย
ตรงกับวัตถุสิ่งของหรือเหตุการณ์อย่างมีจุประสงค์ เช่น การจะหาข้อมูลที่เป็น
รายละเอียดของสิ่งนั้น ๆ โดยไม่ใส่ความคิดเห็นของตนเองลงไป
2. ทักษะการจำแนกประเภท(Classifying)
คือ ความสามารถในการแบ่งประเภทของสิ่งของ โดยหาเกณฑ์หรือ
สร้างเกณฑ์ในการแบ่งขึ้น ส่วนใหญ่เด็กจะใช้เกณฑ์ในการจำแนกอยู่ 3 อย่าง
คือ ความเหมือน ความแตกต่าง และความสัมพันธ์ร่วม ซึ่งแล้วแต่เด็กจะเลือกใช้
(ดังนั้นครุควรถามเมื่อจัดกิจกรรมทั้งนี้เพื่อให้ประเมินเด็กได้อย่างถูกต้อง)
ซึ่งเด็กปฐมวัยส่วนใหญ่จะเลือกใช้เกณฑ์ 2 อย่าง คือ ความเหมือน และความต่าง
เมื่อเด็กสามารถสร้างความเข้าใจได้อย่างถ่องแท้เกี่ยวกับความสัมพันธ์แล้ว
เด็กจึงจะจำแนกโดยใช้ความสัมพันธ์ร่วมได้
3. ทักษะการเปรียบเทียบ(Comparing)
คือ การที่เด็กต้องอาศัยความสัมพันธ์ของวัตถุสิ่งของหรือเหตุการณ์
ตั้งแต่สองสิ่งขึ้นไป บนพื้นฐานของคุณสมบัติที่มีลักษณะเฉพาะอย่าง เช่น
เด็กสามารถบอกได้ว่าลูกบอลลูกหนึ่งมีขนาดเล็กกว่าลูกอีกลูกหนึ่ง นั่นแสดง
ให้เห็นว่า เด็กเห็นความสัมพันธ์ของลูกบอล คือ เล็ก - ใหญ่ ความสำคัญใน
การเปรียบเทียบ คือ เด็กจะต้องมีความเข้าใจเกี่ยวกับลักษณะเฉพาะของสิ่งนั้น ๆ
และรู้จักคำศัพท์คณิตศาสตร์ การเปรียบเทียบนับว่าเป็นพื้นฐานสำคัญต่อการเรียน
ในเรื่องการวัดและการจัดลำดับ
4. ทักษะการจัดลำดับ(Ordering)
คือ การส่งเสริมให้เด็กได้พัฒนาความคิดรวบยอดเกี่ยวกับการ
จัดลำดับวัตถุสิ่งของหรือเหตุการณ์ ซึ่งเป็นทักษะการเปรียบขั้นสูง เพราะจะต้องอาศัย
การเปรียบเทียบสิ่งของมากกว่าสองสิ่งหรือสองกลุ่ม การจัดลำดับในครั้งแรก ๆ
ของเด็กปฐมวัยจะเป็นไปในลักษณะการจัดกระทำกับสิ่งของสองสิ่ง เมื่อเกิดการพัฒนา
จนเกิความเข้าใจอย่างถ่องแท้แล้วเด็กจึงจะสามารถจัดลำดับที่ยากยิ่งขึ้นได้
5. ทักษะการวัด(Measurement)
เมื่อเด็กมีประสบการณ์เกี่ยวกับการจัดประเภท การเปรียบเทียบ และ
การจัดลำดับมาแล้ว เด็กจะพัฒนาความสามารถเข้าสู่เรื่องการวัดได้ ความสามารถ
ในการวัดของเด็ก จะมีความสัมพันธ์กับความสามารถใสนการอนุรักษ์(ความคงที่)
เช่น เด็กสามารถเข้าใจเกี่ยวกับความยาวของเชือกได้ว่า เชือกจะมีความยาวเท่าเดิม
ถึงแม้ว่าจะเปลี่ยนทิศทางหรือตำแหน่งก็ตาม
6. ทักษะการนับ(Counting)
แนวคิดเกี่ยวกับการนับจำนวน ได้แก่ การนับปากเปล่า บอกขนาดของ
กลุ่มที่มีขนาดเท่ากันโดยไม่ต้องนับ นับโดยใช้ลำดับที่นับจำนวนเพิ่มขึ้น นับเพื่อรู้
จำนวนที่มีอยู่ การจดตัวเลข การนับและเข้าใจความหมายของจำนวน การใช้สัญลักษณ์
แทนจำนวน ในเด็กปฐมวัยชอบการนับแบบท่องจำโดยไม่เข้าใจความหมาย การนับแบบ
ท่องจำนี้จะมีความหมายต่อเมื่อเชื่อมโยงกับจุดประสงค์บางอย่าง เช่น การนับจำนวน
เพื่อนในห้องเรียน นับขนมที่อยู่ในมือ แต่การนับของเด็กอาจสับสนได้หากมีการจัดเรียง
สิ่งของเสียใหม่ เมื่อเด็กเข้าใจเรื่องการอนุรักษ์(จำนวน)แล้วเด็กปฐมวัยจึงจะสามารถ
เข้าใจเรื่องการนับจำนวนอย่างมีความหมาย
7. ทักษะเกี่ยวกับเรื่องรูปทรงและขนาด(Sharp and Size)
เรื่องขนาดและรูปทรงจะเกิดขึ้นกับเด็กโดยง่าย ทั้งนี้เนื่องจากเด็กคุ้นเคย
จากการเล่น การจับต้องสิ่งของ ของเล่น หรือวัตถุรูปทรงต่าง ๆ อยู่เสมอในแต่ละวัน
เราจึงมักจะได้ยินเด็กพูดถึงสิ่งต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับรูปทรงหรือขนาดอยู่เสมอ ครูสามารถ
ทดสอบว่าเด็กรู้จักรูปทรงหรือไม่ได้โดยการให้เด็กหยิบ/เลือก สิ่งของตามคำบอก
เมื่อเด็กรูปจักรูปทรงพื้นฐานแล้วครูสามารถสอนให้เด็กรู้จักรูปทรงที่ยากขึ้นได้
ทักษะพื้นฐานในการคิดคำนวณ สำหรับเด็กปฐมวัยอาจแบ่งได้ 3 ทักษะ
1. ทักษะในการจัดหมู่
2. ทักษะในการรวมหมู่(การเพิ่ม)
3. ทักษะในการแยกหมู่(การลด)
เด็กปฐมวัยนั้นครูหรือผู้เกี่ยวข้องควรทราบว่ามีทักษะจำเป็นอะไรบ้างที่เด็กปฐมวัย
ควรได้รับการส่งเสริมและพัฒนาเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการเรียน
คณิตศาสตร์ของเด็กต่อไป ทักษะที่เด็กปฐมวัยควรได้รับการส่งเสริมและพัฒนานั้น
อาจแบ่งเป็น ทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ และทักษะพื้นฐานการคิดคำนวณ
ทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ ที่จำเป็นสำหรับเด็กปฐมวัยมี 7 ทักษะ ได้แก่
1. ทักษะการสังเกต(Observation)
คือการใช้ประสาทสัมผัสในการเรียนรู้ โดยเข้าไปมีปฏิสัมพันธ์โดย
ตรงกับวัตถุสิ่งของหรือเหตุการณ์อย่างมีจุประสงค์ เช่น การจะหาข้อมูลที่เป็น
รายละเอียดของสิ่งนั้น ๆ โดยไม่ใส่ความคิดเห็นของตนเองลงไป
2. ทักษะการจำแนกประเภท(Classifying)
คือ ความสามารถในการแบ่งประเภทของสิ่งของ โดยหาเกณฑ์หรือ
สร้างเกณฑ์ในการแบ่งขึ้น ส่วนใหญ่เด็กจะใช้เกณฑ์ในการจำแนกอยู่ 3 อย่าง
คือ ความเหมือน ความแตกต่าง และความสัมพันธ์ร่วม ซึ่งแล้วแต่เด็กจะเลือกใช้
(ดังนั้นครุควรถามเมื่อจัดกิจกรรมทั้งนี้เพื่อให้ประเมินเด็กได้อย่างถูกต้อง)
ซึ่งเด็กปฐมวัยส่วนใหญ่จะเลือกใช้เกณฑ์ 2 อย่าง คือ ความเหมือน และความต่าง
เมื่อเด็กสามารถสร้างความเข้าใจได้อย่างถ่องแท้เกี่ยวกับความสัมพันธ์แล้ว
เด็กจึงจะจำแนกโดยใช้ความสัมพันธ์ร่วมได้
3. ทักษะการเปรียบเทียบ(Comparing)
คือ การที่เด็กต้องอาศัยความสัมพันธ์ของวัตถุสิ่งของหรือเหตุการณ์
ตั้งแต่สองสิ่งขึ้นไป บนพื้นฐานของคุณสมบัติที่มีลักษณะเฉพาะอย่าง เช่น
เด็กสามารถบอกได้ว่าลูกบอลลูกหนึ่งมีขนาดเล็กกว่าลูกอีกลูกหนึ่ง นั่นแสดง
ให้เห็นว่า เด็กเห็นความสัมพันธ์ของลูกบอล คือ เล็ก - ใหญ่ ความสำคัญใน
การเปรียบเทียบ คือ เด็กจะต้องมีความเข้าใจเกี่ยวกับลักษณะเฉพาะของสิ่งนั้น ๆ
และรู้จักคำศัพท์คณิตศาสตร์ การเปรียบเทียบนับว่าเป็นพื้นฐานสำคัญต่อการเรียน
ในเรื่องการวัดและการจัดลำดับ
4. ทักษะการจัดลำดับ(Ordering)
คือ การส่งเสริมให้เด็กได้พัฒนาความคิดรวบยอดเกี่ยวกับการ
จัดลำดับวัตถุสิ่งของหรือเหตุการณ์ ซึ่งเป็นทักษะการเปรียบขั้นสูง เพราะจะต้องอาศัย
การเปรียบเทียบสิ่งของมากกว่าสองสิ่งหรือสองกลุ่ม การจัดลำดับในครั้งแรก ๆ
ของเด็กปฐมวัยจะเป็นไปในลักษณะการจัดกระทำกับสิ่งของสองสิ่ง เมื่อเกิดการพัฒนา
จนเกิความเข้าใจอย่างถ่องแท้แล้วเด็กจึงจะสามารถจัดลำดับที่ยากยิ่งขึ้นได้
5. ทักษะการวัด(Measurement)
เมื่อเด็กมีประสบการณ์เกี่ยวกับการจัดประเภท การเปรียบเทียบ และ
การจัดลำดับมาแล้ว เด็กจะพัฒนาความสามารถเข้าสู่เรื่องการวัดได้ ความสามารถ
ในการวัดของเด็ก จะมีความสัมพันธ์กับความสามารถใสนการอนุรักษ์(ความคงที่)
เช่น เด็กสามารถเข้าใจเกี่ยวกับความยาวของเชือกได้ว่า เชือกจะมีความยาวเท่าเดิม
ถึงแม้ว่าจะเปลี่ยนทิศทางหรือตำแหน่งก็ตาม
6. ทักษะการนับ(Counting)
แนวคิดเกี่ยวกับการนับจำนวน ได้แก่ การนับปากเปล่า บอกขนาดของ
กลุ่มที่มีขนาดเท่ากันโดยไม่ต้องนับ นับโดยใช้ลำดับที่นับจำนวนเพิ่มขึ้น นับเพื่อรู้
จำนวนที่มีอยู่ การจดตัวเลข การนับและเข้าใจความหมายของจำนวน การใช้สัญลักษณ์
แทนจำนวน ในเด็กปฐมวัยชอบการนับแบบท่องจำโดยไม่เข้าใจความหมาย การนับแบบ
ท่องจำนี้จะมีความหมายต่อเมื่อเชื่อมโยงกับจุดประสงค์บางอย่าง เช่น การนับจำนวน
เพื่อนในห้องเรียน นับขนมที่อยู่ในมือ แต่การนับของเด็กอาจสับสนได้หากมีการจัดเรียง
สิ่งของเสียใหม่ เมื่อเด็กเข้าใจเรื่องการอนุรักษ์(จำนวน)แล้วเด็กปฐมวัยจึงจะสามารถ
เข้าใจเรื่องการนับจำนวนอย่างมีความหมาย
7. ทักษะเกี่ยวกับเรื่องรูปทรงและขนาด(Sharp and Size)
เรื่องขนาดและรูปทรงจะเกิดขึ้นกับเด็กโดยง่าย ทั้งนี้เนื่องจากเด็กคุ้นเคย
จากการเล่น การจับต้องสิ่งของ ของเล่น หรือวัตถุรูปทรงต่าง ๆ อยู่เสมอในแต่ละวัน
เราจึงมักจะได้ยินเด็กพูดถึงสิ่งต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับรูปทรงหรือขนาดอยู่เสมอ ครูสามารถ
ทดสอบว่าเด็กรู้จักรูปทรงหรือไม่ได้โดยการให้เด็กหยิบ/เลือก สิ่งของตามคำบอก
เมื่อเด็กรูปจักรูปทรงพื้นฐานแล้วครูสามารถสอนให้เด็กรู้จักรูปทรงที่ยากขึ้นได้
ทักษะพื้นฐานในการคิดคำนวณ สำหรับเด็กปฐมวัยอาจแบ่งได้ 3 ทักษะ
1. ทักษะในการจัดหมู่
2. ทักษะในการรวมหมู่(การเพิ่ม)
3. ทักษะในการแยกหมู่(การลด)
บันทึกการเรียนครั้งที่ 16
วันอังคารที่ 19 กุมภาพันธ์ 2556
การเรียนการสอน
เครื่องมือ-การบันทึกเป็นมายแมบ ตารางเปรียบเทียบ
ควรที่จะมีการตั้งเกณฑ์เดียว เช่น นำกล้วยที่มีสีเขียวใส่ตะกร้า
คณิตศาสตร์-คิดอย่างมีเหตุ สามารถนำมาใช้เชื่อมโยงกับวิทยาศาสตร์
(จัดตู้ปลา-เซต) ศิลปะ(สมมาตร รูปทรง)
อาจารย์ให้เขียน
-ความรู้ได้อะไรบ้าง
-ได้ทักษะอะไร
-วิธีการสอน
บันทึกการเรียนครั้งที่ 15
วันอังคารที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556
หน่วยเรื่อง อวัยวะภายนอก
วันที่หนึ่ง
เด็กๆค่ะอวัยวะภายนอกที่เด็กๆมองเห็นมีอะไรบ้างค่ะ
เด็กยกมือตอบ เเล้วครูก็จดลงบนกระดาน ตามที่เด็กบอก
วันที่สอง
พูดเรื่องลักษณะ รูปร่าง สี พื้นผิว ของอวัยวะ
เสร็จเเล้วก็ร่วมกันสรุป
วันที่สาม
-ร้องเพลง ตาเรามีไว้ดู
ใช้คำถาม ตามีไว้ทำอะไรค่ะ ดูอะไรได้บ้างค่ะ
หูเรามีไว้ทำอะไรค่ะ ฟังอะไรได้บ้างค่ะ บอกครูสิค่ะว่า จมูกมีไว้ทำอะไรค่ะ ปากละค่ะ
(ทำเป็นเเมป)
ไหนบอกครูสิค่ะว่า อวัยวะของเรามีหน้าที่อะไรกันบ้าง
-สรุป อวัยวะของเรามีหน้าที่เเตกต่างกัน
ใช้คำถาม ตามีไว้ทำอะไรค่ะ ดูอะไรได้บ้างค่ะ
หูเรามีไว้ทำอะไรค่ะ ฟังอะไรได้บ้างค่ะ บอกครูสิค่ะว่า จมูกมีไว้ทำอะไรค่ะ ปากละค่ะ
(ทำเป็นเเมป)
ไหนบอกครูสิค่ะว่า อวัยวะของเรามีหน้าที่อะไรกันบ้าง
-สรุป อวัยวะของเรามีหน้าที่เเตกต่างกัน
วันที่สี่
ประโยชน์ของอวัยวะ (ผลที่จะได้รับ)
เพื่อนเล่านิทาน เเละก็มาสรุปว่า จมูกดมกลิ่น รู้ว่ากลิ่นหอม (เเยกเเยะกลิ่นได้)
ถือของ หอบสิ่งของ สามารถที่จะประกอบอาหารได้
วันที่ห้า
รักษาความสะอาดของอัวยวะภาพนอก (มีภาพ)
ตา--ผงเข้าตา ผงเข้าตาให้รีบบอกพ่อ เเม่ เด็กๆทายสิ พ่อ เเม่ จะทำอย่างไร
-สรุปตอนท้ายร่วมกับเด็กๆ
วันศุกร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556
บันทึกการเรียนครั้งที่ 14
วัน อังคาร ที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2556
การเรียนการสอน
กลุ่มที่4 สอนหน่วยเรื่อง กระดุม
วันเเรก ชนิดของกระดุม ( มิ้งค์ )
นำเข้าสู่บทเรียนโดย1. ครูร้องเพลง
หลับตาเสีย อ่อนเพลียทั้งวัน
นอนหลับเเล้วฝัน เห็นเทวดา
มาร่ายมารำ งามขำโสภา
พอตื่นขึ้นมา เทวดาไม่มี
2.ครูเเจกภาพที่เป็นจิกซอ รูปกระดุม ให้เด็กเป็นบางคน
3. .ให้เด็กนำภาพที่ได้มาต่อหรือวางให้เกิดเป็นภาพที่สมบูรณ์
4. เด็กๆบอกคุณครูซิค่ะว่า เป็นภาพอะไร
ชนิดของกระดุม
กระดุมที่เด็กๆรู้จักมีอะไรบ้างค่ะ เด็กบอกเเละครูก็เขียนตามที่เด็กบอกไว้บนกระดาน
เด็กๆอยากทราบไหมค่ะว่าในขวดนี้มีกระดุมทั้งหมดกี่เม็ด
(อยู่ในการคาดคะเน คือการวัดเเบบไม่เป็นทางการ)
- ครูนับกระดุมในขวด
1 2 3 4 5 6 7
น้องปลาบอกว่ามี7 เม็ด เพื่อนๆปรบมือให้น้องปลาด้วยค่ะ
ไหนใครจะมาช่วยคุณครูหยิบเลขมากำกับไว้ค่ะ
-ครูมีกระดุมมา ซึ่งประกอบด้วยกระดุมที่มี4รู เเละ 1 รู
เด็กเเยกกระดุมที่มี 1 รู ออก ได้ 4 เม็ด เเละกระดุมที่มีมากกว่า 1 รู มี3เม็ด
วันที่สอง ลักษณะของกระดุม ( ดิว )
กระดุมโลหะ กับ กระดุมอโลหะ จะรู้ได้อย่างไรจะต้องใช้เเม่เหล็กมาดูดเพื่อแยกกระดุม
วาดตารางสัมพันธ์
วันที่สาม ประโยชน์ของกระดุม ( มิ้น )
อาจารย์ให้ไปแต่งนิทานเกี่ยวกับกระดุมที่สามารถนำมาเชี่อมโยงและสอดแทรกกับคณิตศาสตร์
วันที่สี่ วิธีการเก็บรักษากระดุม ( น้ำหวาน )
เก็บใส่กล่อง , กระปุก
1.เด็ก ๆ บอกครูสิค่ะว่าจะไปหาซื้อกระดุมได้ที่ไหน ?
2.เด็ก ๆ รู้ไหมค่ะว่ากระดุมสามารถทำให้เกิดอาชีพใดบ้าง ?
3.เด็ก ๆ รู้ไหมค่ะว่าจะต้องเก็บรักษากระดุมได้อย่างไรบ้าง ?
วันที่ห้า ข้อควรระวังของกระดุม ( ฝ้าย )
**ไม่ได้เข้าเรียน
บันทึกการเรียนครั้งที่ 13
วัน อังคาร ที่ 29 มกราคม พ.ศ.2556
การเรียนการสอน
- วันนี้อาจารย์ได้ให้นักศึกษา เข้าเรียนพร้อมกันทั้ง 2 เซกพร้อมกัน เพื่อเข้ามาพูดคุยสนทนาเกี่ยวกับเรื่องการทำกิจกรรม และแบ่งภาระหน้าที่ให้แต่ละคน โดยมีรายละเอียด ดังนี้
1.การแสดงการรำ - สว่างจิต ( แพทตี้ )
2.การแสดงร้องเพลง - รัตติยา ( จูน )
3.การแสดงโฆษณา - นิศาชล ( โบว์ ) , ละไม ( เปิ้ล )
4.พิธีกร - ลูกหยี , ซาร่า
5.การแสดงโชว์
- ลิปซิ่งเพลง - จุฑามาส , นีรชา
- เต้นประกอบเพลง - พลอยปภัส , เกตุวดี , มาลินี
- ละครใบ้ - ลูกหมี , จันทร์สุดา
- ตลก - ณัฐชา , แตง , ชวนชม
6.ผู้กำกับหน้าม้า - พวงทอง , นฎา
7.หน้าม้า - เพื่อน ๆ ที่เหลือจะต้องเป็นน่าหม้า
- และอาจารย์ให้ทุกคนช่วยกันสรุปกิจกรรมในวันนี้ว่าสามารถนำไปเชื่อมโยงกับคณิตศาสตร์ได้อย่างไร สามารถสรุป ได้ดังนี้
1.การนับ
2.การลำดับเหตุการณ์
3.การทำตามแบบ
4.การบวก
วันจันทร์ที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2556
บันทึกการเรียนครั้งที่ 12
วัน อังคาร ที่ 22 มกราคม พ.ศ.2556
การเรียนการสอน
วันนี้อาจารย์พูดเรื่องการอ่านงานวิจัย และให้นักศึกษาไปอ่านและทำความเข้าใจงานวิจัยที่เกี่ยวกับคณิตศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัยมาอย่างละเอียด
- อาจารย์ให้นักศึกษาแต่ละกลุ่มออกไปสอบสอน โดยสอนทีละคนคนละวันตามที่ได้รับมอบหมาย พร้อมทั้งอาจารย์ได้ให้คำแนะนำการสอนที่ถูกต้อง กลุ่มที่ได้ออกไปสอบสอนวันนี้มี 3 กลุ่ม ได้แก่
1.กลุ่ม "ขนมไทย"
2.กลุ่ม "ข้าว"
3.กลุ่ม "กล้วย"
วันอังคารที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2556
บันทึกการเรียนครั้งที่ 11
วัน อังคาร ที่ 15 มกราคม พ.ศ.2556
การเรียนการสอน
อาจารย์ให้ออกไปสอบสอนเป็นรายกลุ่ม
หมายเหตุ - สอบได้แค่กลุ่มเีดียว เนื่องจากอาจารย์ติดประชุม
บันทึกการเรียนครั้งที่ 10
วันอังคารที่ 8 มกราคม พ.ศ.2556
การเรียนการสอน
สาระ มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดคณิตศาสตร์ปฐมวัย : สสวท.
สาระที่ 1 : จำนวนและการดำเนินการ
คือ เข้าใจถึงความหลากหลายของการแสดงจำนวนและการใช้จำนวนในชิวิตประจำวัน
สาระที่ 2 : การวัด
คือ เข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับการวัดความยาว น้ำหนัก ปริมาณ เงิน เวลา
สาระที่ 3 : เรขาคณิต
คือ รู้จักใช้คำในการบอกทิศทาง ตำแหน่ง และระยะทาง
รู้จัก จำแนกรูปเรขาคณิต และเข้าใจการเปลี่ยนแปลงรูปเรขาคณิตที่เกิดจากการกระทำ
สาระที่ 4 : พีชคณิต
คือ เข้าใจรูปแบบและความสัมพันธ์
สาระที่ 5 : การวิเคาระห์ข้อมูลและความน่าจะเป็น
คือ รวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวกับตนเองและสิ่งแวดล้อม และนำเสนอ
สาระที่ 6 : ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์
หมายเหตุ - ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ได้แก่ การแก้ปัญหา การใช้เหตุผล การสื่อสาร การสื่อสารทางคณิตศาสตร์และการนำเสนอ การเชื่อมโยงความรู้ต่าง ๆ ทางคณิตศาสตร์กับศาสตร์อื่น ๆ และมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์
มาตรฐาน คือ สิ่งที่ทุกคนยอมรับ
เกณฑ์ คือ ตัวชีวัดที่เป็นตัวเลข และเป็นที่ยอมรับ และมีคุณภาพ
สาระ มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดคณิตศาสตร์ปฐมวัย : สสวท.
สาระที่ 1 : จำนวนและการดำเนินการ
คือ เข้าใจถึงความหลากหลายของการแสดงจำนวนและการใช้จำนวนในชิวิตประจำวัน
สาระที่ 2 : การวัด
คือ เข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับการวัดความยาว น้ำหนัก ปริมาณ เงิน เวลา
สาระที่ 3 : เรขาคณิต
คือ รู้จักใช้คำในการบอกทิศทาง ตำแหน่ง และระยะทาง
รู้จัก จำแนกรูปเรขาคณิต และเข้าใจการเปลี่ยนแปลงรูปเรขาคณิตที่เกิดจากการกระทำ
สาระที่ 4 : พีชคณิต
คือ เข้าใจรูปแบบและความสัมพันธ์
สาระที่ 5 : การวิเคาระห์ข้อมูลและความน่าจะเป็น
คือ รวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวกับตนเองและสิ่งแวดล้อม และนำเสนอ
สาระที่ 6 : ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์
หมายเหตุ - ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ได้แก่ การแก้ปัญหา การใช้เหตุผล การสื่อสาร การสื่อสารทางคณิตศาสตร์และการนำเสนอ การเชื่อมโยงความรู้ต่าง ๆ ทางคณิตศาสตร์กับศาสตร์อื่น ๆ และมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์
มาตรฐาน คือ สิ่งที่ทุกคนยอมรับ
เกณฑ์ คือ ตัวชีวัดที่เป็นตัวเลข และเป็นที่ยอมรับ และมีคุณภาพ
วันเสาร์ที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2556
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)